วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

บริษัทเหล็ก SAIL คาด ราคาถ่านโค้กลด ดันกำไรพุ่งไตรมาสหน้า

บริษัท Steel Authority of India Ltd (SAIL) คาดกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้าเนื่องจากราคาถ่านโค้กมีแนวโน้มลดลง

ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์เหล็กคาดจะทรงตัวในระดับสูงต่อไป

นาย CS Verma ประธานบริษัท SAIL กล่าวว่า กำไรสุทธิของบริษัทสามารถดีดตัวกลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง เนื่องจากราคาถ่านโค้กที่ลดลงจากที่เคยเตะระดับสูงสุดที่ 350เหรียญสหรัฐฯต่อตัน เหลือเพียง 300 เหรียญสหรัฐต่อตันฯ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อราคาถ่านโค้กจะลดลงมาอีกราว 50 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน เหลือเพียง 250 เหรียญสหรัฐต่อตันฯ

นาย Verma กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าราคาถ่านโค้กลดลง 1 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน จะส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทลดลงมากกว่า 450 ล้านรูปี ต่อปี (ราว 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้บริษัทต้องนำเข้าถ่านโค้กประมาณ 11 ล้านตันต่อปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบสำคัญของผู้ผลิตเหล็กในปัจจุบัน

ทั้งนี้ อัตราเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทชะลอตัวลงในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญมาจากราคาถ่านโค้กและค่าแรงของพนักงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดย SAIL ถือเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของอินเดีย มีรายได้ลดลง 29% ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน หรือมีรายรับอยู่ที่ 8,380 ล้านรูปี (ราว 197 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

สำหรับราคาเหล็กนั้น นาย Verma กล่าวว่า บริษัทได้เพิ่มราคาขึ้นไปประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ดีและราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่า ราคาของผลิตภัณฑ์เหล็กจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงต่อไปแม้ว่าราคาวัตถุดิบจะลดลงก็ตาม อุปสงค์สำหรับเหล็กในอินเดียจะยังคงแข็งแกร่ง ตามการใช้จ่ายเรื่องสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นของรับบาล ขณะที่อุปสงค์จากอุตสาหกรรมน่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ภายหลังฤดูมรสุมในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายนสิ้นสุดลง

นอกจากนี้ นาย Verma กล่าวว่า ความต้องการเหล็กที่มากขึ้นจะส่งผลให้บอดขายเหล็กอินเดียเพิ่มขึ้น 9-10% ในช่วงตุลาคมถึงมีนาคมปีหน้า

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

คนงานเหมืองถ่านหินของ BHPB นัดประท้วงหยุดงาน

คนงานเหมืองถ่านโค้กของ BHP Billiton Ltd’s ในออสเตรเลียนัดประท้วงหยุดงานอีกครั้งหลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องค่าจ้างและสภาพแวดล้อมในการทำงานล้มเหลว การนัดประท้วงหยุดงานครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของเหมืองถ่านหิน BHP คนงานกว่า 3,500 เข้าร่วมการนัดหยุดงานซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน การนัดหยุดงานนี้สร้างความเสียหายแก่การดำเนินงานของเหมืองถ่านหิน 3 แห่งของ BHP Billiton Mitsubishi Alliance และยังมีทีท่าว่าจะขยายไปยังอีก 4 เหมืองของ BMA

สหภาพแรงงานเรียกร้องให้มีการเพิ่มค่าจ้างพร้อมทั้งปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดีขึ้น เนื่องจากราคาถ่านหินที่แพงขึ้นได้สร้างกำไรให้แก่กิจการเหมืองถ่านหินซึ่งรวมถึง BHP ด้วย ซึ่งการประท้วงที่ยาวนานจะสร้างความเสียหายแก่การส่งออกวัตถุดิบในการผลิตเหล็ก

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

อินเดียหวังเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกภายในปี 2013

สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดียหรือ Associated Chambers of Commerce and Industry of India (ASSOCHAM) กล่าวว่า อินเดียจะกลายเป็นผู้ผลิตเหล็กอันดับสองของโลกภายในปี 2013 ด้วยกำลังการผลิต 120 ล้านตัน

ตามรายงานของสมาคมเหล็กโลก อินเดียผลิตเหล็กดิบทั้งหมด 66.85 ล้านตันในปี 2010 ถือเป็นผู้ผลิตอันดับที่ 5 ของโลก ตามหลังประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย โดยสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดียกล่าวว่า ความต้องการในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานจำนวนมากของอินเดียส่งผลให้เกิดการขยายตัวของกำลังการผลิตเหล็กอย่างรวดเร็ว

นาย D.S. Rawat รองเลขาธิการของสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดียกล่าวด้วยว่า อัตราการเติบโตที่สูงขึ้นของสิ่งก่อสร้าง บ้านเรือน รถยนต์และเกษตรกรรมจะหนุนให้อุปสงค์ของเหล็กเพิ่มขึ้นถึง 12% ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม อินเดียจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 150 ล้านตันภายในปี 2020

ตามการรายงานการวิจัยของสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย แสดงให้เห็นว่าการใช้เหล็หเข้มข้น (Steel intensity) ของอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งรายได้ต่อหัวของประชากรอินเดียจะเข้าใกล้ 10,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งส่งผลให้อุปสงค์ของเหล็กเพิ่มขึ้นและคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตเหล็กทั่วโลก นาย Rawat กล่าวด้วยว่า รายได้ต่อหัวของคนอินเดียปัจจุบันอยู่ที่ 3,300 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของการบริโภคเหล็ก โดยจะสูงถึง 200 ล้านตันภายในปี 2020 ในขณะที่จีนมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นจาก 2,600 เหรียญสหรัฐฯต่อปี เป็น 7,500 เหรียญสหรัฐฯต่อปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

อุตสาหกรรมถ่านหินอินโดนีเซียคาดเติบโตในปี 2012

ผลผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า ตามการเพิ่มขึ้นของเหมืองใหม่ โดยนาย Supriatna Suhala กรรมการบริหารสมาคมการทำเหมืองถ่านหินแห่งอินโดนีเซีย (Indonesian Coal Mining Association – APBI) กล่าวว่า ผลผลิตถ่านหินและถ่านโค้กของอินโดนีเซียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 380 ล้านตันในปี 2012 หรือเพิ่มขึ้น 5% ตามการคาดการณ์

นอกจากนี้ ยังมองว่า ความต้องการถ่านหินของจีนจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าหรือ 6,000 ล้านตัน ใน 5 ปีข้างหน้า ในขณะที่อินโดนีเซียใช้ถ่านหินสำหรับผลิตไฟฟ้าแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติซึ่งมีไม่เพียงพอ โดยรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า Perusahaan Listrik Negara ใช้ถ่านหินถึง 57 ล้านตัน หรือคิดเป็น 70% ของความต้องการใช้ถ่านหินทั้งประเทศ ส่วนที่เหลือจะถูกใช้ในอุตสาหกรรมซีเมนต์ ทอง และทองแดง เช่น บริษัท Newmont Nusa Tenggara, Freeport Indonesia and Antam และ nickel producer Inco เป็นต้น นอกจากนี้บางส่วนส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ จีน อินเดียและญี่ปุ่น

นาย Supriatna กล่าวอีกว่า ขณะนี้ความต้องการพลังงานในทุกประเทศทั่วโลก กำลังกระตุ้นให้เหมือนแร่ถ่านหินต่างๆเร่งเพิ่มผลผลิตเพิ่มขึ้น และผลักดันให้บริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงานเข้ามาทำธุรกิจถ่านหินมากขึ้น เช่น ประเทศเคนย่า บังกลาเทศ และปากีสถาน ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่อินโดนีเซียจะทำการลงทุนในอุตสาหกรรมถ่านหินเพิ่ม โดยเฉพาะที่เกาะ Kalimantan ซึ่งมีแหล่งทรัพยากรที่สมบูรณ์

โดยสมาคมการทำเหมืองถ่านหินแห่งอินโดนีเซียมองว่า ราคาถ่านหินจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในปีหน้า ในขณะที่ ราคาถ่านหินอินโดนีเซียเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 117 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้น 4.5% จากเดือนมกราคม

ทั้งนี้ บริษัท Bumi Resources ถือว่าเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ของอินโดนีเซีย ตามมาด้วยบริษัท Adaro และ Kideco Jaya Agung

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ผลผลิตเหล็กดิบของจีนลดลงกว่า 1% m-o-m ในเดือนสิงหาคม

ผลผลิตเหล็กดิบของจีนในเดือนสิงหาคมลดลง 0.9% m-o-m มาอยู่ที่ 58.75 ล้านตัน เนื่องจากโรงงานหลายแห่งลดการผลิตลงระหว่างการซ่อมบำรุง โรงงานวางแผนซ่อมบำรุงในช่วงนี้เนื่องจากเป็นช่วงที่ความต้องการใช้เหล็กน้อยลงตลอดฤดูร้อน ผลผลิตเหล็กดิบเฉลี่ยรายวันในปีนี้มากกว่า 1.9 ล้านตันต่อวัน โดยมีสถิติสูงสุด 1.998 ล้านตันต่อวันในเดือนมิถุนายน ซึ่งมากกว่าระดับ 1.7 ล้านตันในปีที่ผ่านมา

ผู้ผลิตเหล็กเชื่อว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นหลังจากหมดช่วงการซ่อมบำรุงไปแล้วเนื่องจากยังมีความต้องการใช้เหล็กจากการก่อสร้างในโครงการบ้านราคาถูกอยู่ ผลผลิตเหล็กดิบรวมของจีนในช่วงแปดเดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 469.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ธุรกิจก่อสร้างเวียดนามซบเซา ดันสต๊อกเหล็กพุ่ง

Vietnam Business News

สมาคมเหล็กเวียดนามเผย สต๊อกเหล็กมียอดเข้าใกล้ 600,000 ตัน ในขณะที่ธุรกิจก่อสร้างเริ่มเข้าสูงช่วงฤดูหดตัว

สมาคมเหล็กเวียดนามกล่าวว่า เนื่องจากภาวะราคาที่เพิ่มสูงขึ้นประกอบกับนโยบายรัฐเข็มขัดของรัฐบาลที่ต้องการควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างชะลอตัวลง ซึ่งกระทบต่ออุปสงค์เหล็กให้ลดลงไปด้วย ทั้งนี้นโยบายของรัฐประกอบไปด้วยการใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดในกาปล่อยสินเชื่อสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต (Non-Manufacturing Sectors) และการตัดลดงบประมาณในโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่ไม่จำเป็นออก

ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทเหล็กแห่งหนึ่งกล่าวว่า ปัจจุบันสินค้าเหล็กคงคลังมีถึง 700 ตัน และภาวะตลาดที่ซบเซาของธุรกิจก่อสร้างใหม่ ทำให้บริษัทไม่มีทางเลือกจึงจำเป็นต้องลดราคาเหล็กลงเพื่อลดสต๊อกเหล็กที่มีอยู่มากเกินไป นั้นหมายถึงบริษัทต้องขาดทุนมหาศาล

นอกจากนี้สมาคมเหล็กเวียดนามยังกล่าวว่า เฉลี่ยแล้วบริษัทเหล็กต้องจ่ายเงินจำนวน 200-300,000 ดอง (ประมาณ 0.3-430 บาท) สำหรับต้นทุนในการสต๊อกเหล็ก 1 ตัน ในแต่ละเดือน โดยคาดว่าบริษัทเหล็กจำนวนมากจะมีค่าใช้จ่ายถึง 120,000-180,000 ล้านดอง (ประมาณ 172-258 ล้านบาท) ต่อเดือน

ในขณะที่ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้กระตุ้นให้บริษัทเหล็กมีแผนการผลิตที่เหมาะสมและจัดการกับสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ดัชนีสินค้าเหล็กคงคลังของเวียดนามตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ตลาดนำเข้าบิลเล็ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังนิ่งอยู่

การนำเข้าบิลเล็ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชะลอตัวลงเนื่องจากผู้นำเข้ารอดูผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจซึ่งผลักดันให้ความต้องการเหล็กในการก่อสร้างลดลงไปด้วย มีการเสนอขายบิลเล็ตจากเกาหลีที่ราคา 695-700 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr ฟิลิปปินส์ ในขณะที่มีการเสนอขายบิลเล็ตจากเวียดนามที่ราคา 690 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr ฟิลิปปินส์ และมีการเสนอขายบิลเล็ตจากมาเลเซียที่ราคา 700 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr ฟิลิปปินส์และไทย อย่างไรก็ตามยังคงไม่มีการตกลงซื้อขายในฟิลิปปินส์ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งผู้ขายก็ไม่ต้องการลดราคาเสนอขายลงและฝ่ายผู้ซื้อก็ไม่ต้องการขึ้นราคาเสนอซื้อ

ในขณะเดียวกันการนำเข้าบิลเล็ตของอินโดนีเซียก็ชะลอตัวลงเนื่องจากอยู่ในช่วงการถือศีลอด ส่วนเวียดนามและไทยในตอนนี้ก็ใช้บิลเล็ตในประเทศมากกว่า อย่างไรก็ตามผู้ค้าเชื่อว่าตลาดบิลเล็ตจะดีขึ้นหลังจากหมดช่วงวันหยุดในตะวันออกกลางตุรกี และภาคการก่อสร้างก็จะดีขึ้นหลังจากหมดฤดูฝน

**สแลปนำเข้าในเอเชียตะวันออกค่อนข้างเงียบ
ตลาดนำเข้าสแลปในเอเชียตะวันออกค่อนข้างเงียบ มีการเสนอขายเพียงเล็กน้อย แต่ยังไม่มีการตกลงซื้อขายกัน ซึ่งตลาดเริ่มซบเซามาตั้งแต่มีข่าววิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ซื้อลังเลและต้องการจะรอดูสถานการณ์ไปก่อน ในเดือนที่ผ่านมามีการสั่งจองสแลปในราคา 650 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr เอเชียตะวันออก ในขณะที่ผู้ขายตั้งใจจะขายที่ราคา 660-670 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr ในเดือนนี้ แต่ยังไม่มีใครตกลงซื้อ

ในประเทศไทย มีการเสนอขายสแลปสำหรับทำเหล็กแผ่นชนิดม้วนจากเกาหลีและญี่ปุ่นที่ราคา 675-685 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr แต่มีการเสนอซื้อที่ราคา 650 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr ในขระที่เดือนก่อนราคาสั่งจองสแลปอยู่ที่ 655 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

คาดแอฟริกาจะเป็นตลาดแร่เหล็กที่สำคัญในอีก 4-5 ปีข้างหน้า

การประชุมตลาดเหล็กของประเทศลาตินเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรายงานว่า ตลาดแร่เหล็กและถ่านหินของแอฟริกาจะเติบโตในอีก 4-5 ปีข้างหน้าเนื่องจางการสร้างเหมือนแร่แห่งใหม่ในปัจจุบัน

นาย Roger Manser กล่าวในประชุม ณ เมือง Sao Paulo ว่า แอฟริกาจะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตแร่โลหะและถ่านหินแห่งใหม่ ซึ่งจะตั้งอยู่ทางตะวันตกของแอฟริกา โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายโครงการที่มีกำหนดการดำเนินงานในปีหน้า

ทั้งนี้เหมือนแร่ดังกล่าวคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในไตรมาส 3 ของปี 2011 และสามารถส่งออกแร่เหล็กและถ่านหินได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2011

นอกจากนี้ นาย Roger Manserกล่าวว่า ปัจจุบันราคาวัตถุดิบอย่าง แร่เหล็ก ถ่านหินและเศษเหล็กจะยังคงตึงตัวต่อไปในช่วงที่เหลือของปี 2011 และต่อไปเนื่องไปจนถึงปี 2012 ทั้งนี้ ราคาที่สูงขึ้นจะหมายถึงความเสี่ยงมากขึ้นของผู้ผลิตเหล็กและส่งผลต่อการใช้วัตถุดิบทางเลือกเช่น เศษเหล็ก ถ่านหิน PCI DRI/HBI และถ่านหินลิกไนท์

Roger Manser กล่าวเสริมว่า ราคาวัตถุดิบจะเป็นภาระด้านต้นทุนการผลิตเหล็กในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า จากเดิมในอดีตอยู่ที่ 60% ของต้นทุนการผลิตในปี 2004 ซึ่งคาดว่าจะถึง 80% ของต้นทุนการผลิตในปี 2011 ในขณะที่ผู้ผลิตเหล็กจะเผชิญกับส่วนต่างของกำไรที่ลดลง เนื่องราคาเหล็กได้รับแรงกดดันจากการลงทุนในส่วนของกำลังการผลิตที่มีมากเกินไป ส่งผลให้เกิดผลผลิตส่วนเกินจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศเกิดใหม่

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

เวียดนามมองตลาดส่งออกเนื่องจากตลาดในประเทศซบเซา

ผู้ค้าเหล็กในภูมิภาคต่างประหลาดใจกับการเสนอขายบิลเล็ตส่งออกของเวียดนามเนื่องจากปกติแล้วเวียดนามเป็นผู้นำเข้าสุทธิ ตลาดบิลเล็ตในประเทศของเวียดนามซบเซาลงและการนำเข้าก็น้อยลงด้วยจากกิจกรรมที่ลดลง จากมาตรการทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นของเวียดนามทำให้ความต้องการใช้เหล็กลดลงและการคาดการณ์การสภาวะตลาดแย่ลงด้วย เงินเฟ้อในเวียดนามสูงขึ้นขณะที่อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเงินกู้อยู่ที่ 20% ต่อปี ค่าเงินดองก็อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 21,000 ดองต่อเหรียญสหรัฐ จากเดิมในเดือนก่อนที่ระดับ 20,500 ดองต่อเหรียญสหรัฐ

ในเดือนล่าสุดมีการเสนอขายบิลเล็ตจากเวียดนามที่ราคา 685-695 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่ผู้ขายชาวเวียดนามพยายามเสนอขายเหล็กแผ่นรีดร้อนจากจีน เกรด ss400B ขนาด 3-12 มม. ที่ราคา 700 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่ราคานี้ยังค่อนข้างสูงอยู่

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

ความต้องการใช้เหล็กเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลง

ความต้องการใช้เหล็กเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลง เหล็กเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจากจีนไม่สามารถสู้อินเดียได้ในการส่งออกไปยังประเทศแถบยุโรปและตะวันออกกลาง เนื่องจากค่าขนส่งจากจีนจะแพงกว่าของอินเดีย ยิ่งกว่านั้นสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและความผันผวนของคาเงินยังเป็นปัจจัยให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อและถอนตัวออกจากตลาดเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อน

ราคาเสนอขายของเหล็กเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน ขนาด 1 มม. จากจีนอยู่ที่ 830-870 เหรียญสหรัฐต่อตัน fob และในเดือนสิงหาคมราคาเหล็กเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนของจีนเป็น 850-860 เหรียญสหรัฐต่อตัน cfr เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ไต้หวันเสนอขายแพงกว่าที่ราคา 930-950 เหรียญสหรัฐต่อตัน fob ซึ่งเป็นราคาที่แพงเกินกว่าจะแข่งขันได้ ราคานี้คงใช้ได้แค่กับลูกค้าที่ต้องการเหล็กคุณภาพสูงและเฉพาะเจาะจงเท่านั้น ผู้ค้าเชื่อว่าลูกค้าจะซื้อเหล็กจากจีนมากกว่าเนื่องจามีราคาที่ถูกกว่า

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

โรงเหล็กย่อยของ JFE ฟื้นตัวจากแผ่นดินไหว

JFE Bar & Sharp บริษัทในกลุ่ม JFE Steel คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินงานโรงเหล็กใน Sendai ได้ในเดือนตุลาคม โรงงานที่ Sendai ซึ่งมีกำลังการผลิตเหล็กเส้นและเหล็กลวดชนิดพิเศษ 70,000 ตันต่อเดือน ได้รับความเสียหายอย่างหนักในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในวันที่ 11 มีนาคม แต่ตอนนี้ระบบต่างๆสามารถกลับมาใช้งานได้และพร้อมเปิดดำเนินงานแล้ว JFE B&S หวังว่าจะสามารถกลับมาดำเนินการผลิตในระดับเดียวกับตอนก่อนแผ่นดินไหวได้ภายในเดือนตุลาคมเนื่องจากมีความต้องการใช้เหล็กจากอุตสาหกรรมยานยนต์เข้ามามากทำให้โรงงานต้องเร่งการผลิต

JFE B&S เปิดสายการผลิตเหล็กเส้น 60,000 ตันต่อเดือนในวันที่ 14 กรกฎาคม เริ่มผลิตเหล็กลวด 25,000 ตันต่อเดือนวันที่ 31 กรกฎาคม เปิด steel shop วันที่ 16 สิงหาคม และเริ่มโรงผลิต bloom และ billet วันที่ 20 สิงหาคม ในขณะเดียวกัน JFE ก็มีแผนจะรวมโรงเหล็ก 4 โรงย่อยเข้าด้วยกันในวันที่ 1 เมษายน 2012 ได้แก่ JFE B&S, Daiwa Steel, Tohoku Steel และ Toyohira Steel

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

ราคาขายเหล็กในตุรกีพุ่ง 36.37% ในเดือนสิงหาคม

steelorbis

ตามรายงานของสถาบันสถิติตุรกี (Turkish Statistical Institute) เผย ดัชนีราคาผู้ผลิตของอุตสาหกรรมตุรกีในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 1.76% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ในเดือนสิงหาคม ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือนสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่เหล็ก โดยเพิ่มขึ้นถึง 7.01% และดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับอุตสาหกรรมโลหะมูลฐานเพิ่มขึ้น 3.69% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นถึง 36.37% เมื่อกับเดือนเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิตของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กภายในประเทศ ยกเว้น กลุ่มเครื่องจักร เพิ่มขึ้น 1.98% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 10.71% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมปี 2010

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

Nippon Steel ขยายการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีกัลวานีลแรงดึงสูง

Nippon Steel ขยายการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีกัลป์วานีลแรงดึงสูงสำหรับยานยนต์ โดย Nippon Steel ร่วมกับผู้ผลิตสหรัฐเริ่มการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีกัลวานีลแรงดึงสูง ขนาด 980 เมกะพาสคาล (MPa) ในปี 2011 เนื่องจากการผลิตรถยนต์ในระยะหลังๆนี้ต้องการรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง ผู้ผลิตรถจึงต้องการใช้เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีกัลป์วานีลแรงดึงสูง เนื่องจากเหล็กเคลือบกัลป์วานิลมีน้ำหนักน้อย ทำให้รถเบาและยังคงมีความปลอดภัยในการใช้งาน Nippon Steel เริ่มผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีกัลป์วานีลแรงดึงสูง ขนาด 980 เมกะพาสคาล (MPa) ที่ IN Kote ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับสหรัฐในปี 2011 และจะเริ่มผลิตในเม็กซิโกและไทยในปี 2013 และยังมีแผนจะผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีกัลป์วานีลแรงดึงสูง ขนาด 590-980 เมกะพาสคาล (MPa)ที่ UNIGAL ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบลาซิลด้วย

I/N Tek ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Nippon Steel กับสหรัฐมีกำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น 1.55 ล้านตันต่อปี และสายการผลิต continuous annealing and processing line (CAPL) ขนาด 1.1 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ IN Kote มีกำลังการผลิต continuous galvanizing line (CGL) 455,000 ตันต่อปี และสายการผลิต electro galvanizing 410,000 ตันต่อปี ส่วนUNIGAL ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Nippon Steel กับ Usiminas ของบลาซิล มีกำลังการผลิต CGL 1 ล้านตันต่อปี และ BNA ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Nippon Steel กับ Bao Steel มีการผลิตเหล็กรีดเย็น 2.2 ล้านตันต่อปี และมีสายการผลิต CAPL 950,000 ตันต่อปี สายการผลิต CGL 1.25 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ Nippon Steel ยังมีแผนจะขยายสายการผลิต CGL อีก 1.36 ล้านตันต่อปีในไทย เม็กซิโก และอินเดีย ซึ่งจะทำให้ Nippon Steel มีการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบกัลป์วานิลทั้งหมด 6.5 ล้านตันต่อปี

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

การนำเข้าถ่านหินของจีนในปี 2011 คาดว่าจะน้อยกว่าปี 2010

ปริมาณการนำเข้าถ่านหินของจีนในปี 2011 นี้คาดว่าจะอยู่ที่ 150 ล้านตัน ซึ่งปริมาณการนำเข้าในปีนี้จะน้อยกว่าเมื่อปีก่อนตรงข้ามกับปริมาณความต้องการใช้ที่มากขึ้น การบริโภคถ่านหินของจีนจะเติบโตไปได้อีกแต่ต้องมีการขยายการผลิตและการขนส่งให้รองรับได้มากขึ้น

รัฐบาลจีนพิจารณาจะลดภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมท่าเรือในการนำเข้าถ่านหินเนื่องจากต้องการกระตุ้นการนำเข้าจากต่างประเทศ จีนต้องการกระตุ้นการนำเข้าถ่านหินและกระตุ้นให้ผู้ผลิตในประเทศผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าที่มักจะเกิดในช่วงฤดูร้อน

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

เกาหลีร้องเรียนการส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนเติมโบรอนของจีน

ผู้ผลิตเหล็กชาวเกาหลีร้องเรียนการที่โรงเหล็กจีนเติมโบรอนลงในเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ส่งออก Posco และ Hyundai Steel ยกประเด็นนี้ขึ้นมาในที่ประชุมประจำปีระหว่างเกาหลีและจีนที่เมืองปูซานในวันที่ 8 สิงหาคม โดยในที่ประชุมมีตัวแทนจาก 50 อุตสาหกรรม ตัวแทนจากสมาคมเหล็กเกาหลี สมาคมเหล็กจีน โรงงานและผู้แทนจากรัฐ เกาหลีร้องเรียนว่าโรงงานจีนส่งออกเหล็กรีดร้อนที่เติมโบรอนเพื่อต้องการเงินภาษีคืนจากปักกิ่ง เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ยกเลิกการคืนเงินภาษีให้แก่ผู้ส่งออกเหล็กรีดร้อนธรรมดาไปเมื่อปีก่อน แต่ยังคงมาตรการคืนเงินภาษี 9% สำหรับเหล็กรีดร้อนที่เติมโบรอน ทั้งนี้ล่าสุดสัดส่วนการส่งออกเหล็กรีดร้อนเติมโบรอนของจีนไปยังเกาหลีสูงถึง 80-90% ของการส่งออกเหล็กรีดร้อนทั้งหมด เกาหลีอ้างว่าเหล็กรีดร้อนราคาถูกจากจีนเหล่านี้ทำลายราคา spot ในตลาดเกาหลี และก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจด้วย

ระหว่างครึ่งแรกของปี 2011 นี้ ราคานำเข้าเฉลี่ยของเหล็กแผ่นรีดร้อนจากจีนมายังเกาหลีอยู่ที่ 680 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในขณะที่ราคาในประเทศจาก Hyundai และ Posco เองอยู่ที่ 786-805 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนราคาประกาศสูงถึง 969 เหรียญสหรัฐต่อตัน จีนส่งออกเหล็กรีดร้อนมาเกาหลีเป็นจำนวน 1.42 ล้านตันในช่วงครึ่งแรกของปี 2011 ลดลง 14.5% y-o-y

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

ราคาถ่านโค้กในเอเชียแปซิฟิคลดลงต่ำกว่า 300 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ราคาถ่านโค้กแข็งเกรดพรีเมียมของออสเตรเลียลดลงต่ำกว่า 300 เหรียญสหรัฐต่อตัน fob เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ซื้อชาวอินเดียและชาวจีนชะลอการสั่งซื้อลง ล่าสุดราคาถ่านโค้กสารระเหยต่ำเกรดพรีเมียมลดลง 2 เหรียญสหรัฐต่อตัน ไปอยู่ที่ 299 เหรียญสหรัฐต่อตัน fob ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาที่ราคาถ่านโค้กลดลงจนต่ำกว่า 300 เหรียญสหรัฐต่อตัน นอกจากนี้ราคาถ่านโค้กที่มีสารระเหยปานกลางเกรด HCC 64 ก็มีราคาลดลง 3 เหรียญสหรัฐต่อตัน เป็น 255 เหรียญสหรัฐต่อตัน fob ในขณะเดียวกันตลาด spot ในประเทศอินเดียและยุโรปก็เงียบเช่นกันโดยผู้ซื้อกำลังรอดูความชัดเจนจากความไม่มีเสถียรภาพในตลาดการเงิน

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

จีนลดเป้าการสร้างบ้านลง 20%

รัฐบาลกลางของจีนลดเป้าหมายการสร้างบ้ายนราคาถูกในปี 2012 ลง 20% จาก 10 ล้านหลังเหลือเพียง 8 ล้านหลัง แต่ถึงกระนั้นผู้สังเกตตลาดยังสงสัยว่ารัฐบาลจะสามารถสร้างบ้านได้ตามเป้าหมาย 10 ล้านหลังในปี 2011 นี้หรือไม่ ทั้งนี้ธนาคารเพื่อการลงทุน UBS ออกมาคาดการณ์ว่ารัฐน่าจะสร้างบ้านได้เสร็จ 90% ของเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการใช้เหล็ก 32 ล้านตัน

ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลให้ราคาสัญญาเดือนมกราคมของเหล็กเส้นในตลาด Shanghai Futures Exchange ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากระดับราคาในวันที่ 5 สิงหาคม จนราคาเริ่มฟื้นกลับเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาตลาดของเหล็กเส้นใน Shanghai ลดลง 40 หยวนต่อตัน (6 เหรียญสหรัฐต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ 4,760 หยวนต่อตัน (744 เหรียญสหรัฐต่อตัน)

เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

Shengli เข้าถือหุ้นโรงงานทำท่อ SSAW

Shengli Oil & Gas Steel Pipe Holdings จะเข้าถือหุ้น 55% ในโรงงานทำท่อ SSAW ในเมือง Xinjiang เขต Uyghur หุ้นที่เหลืออีก 45% จะถือโดย Beijing Huayou Xingye, Tianjin Dehua และผู้ถือหุ้นรายย่อย มีการเร่งวางท่อก๊าซเนื่องจาก Beijing วางแผนจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติจาก 3.8% ในปี 2009 เป็น 8-10% ในปี 2020

Shengli ตกลงจ่าย 99 ล้านหยวน (16 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเข้าถือหุ้นใหญ่ใน Huayou Xingye (Xinjiang) ซึ่งเป็นโรงงานทำอุปกรณ์ปิโตรเลียม นอกจากนี้ Shengli วางแผนจะขยายสายการผลิตท่อ SSAW เป็น 1 ล้านตันต่อปีภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีกำลังการผลิตที่ 360,000 ตันต่อปี

ส่วน Huayou เป็นโรงงานทำท่อ SSAW ที่ผลิตท่อเกรดสูง (มากกว่า x80) สำหรับส่งให้กับโครงการท่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของจีน โดยมีกำลังการผลิต 150,000 ตันต่อปี ท่อที่ผลิตมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 508-2,540 มม. และมีความหนา 6-25.4 มม.
เหล็กข้ออ้อย,
เหล็กเส้นกลม,